Small Grey Outline Pointer

วันศุกร์ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2561


Record 15





I missed class today because something to attend to





Record 14
Monday  30 april 2018




เนื้อหาการเรียนการสอน
การเรียนการสอนในวันนี้ สอบสอนกิจกรรมเสริมประสบการณ์ต่อจากสัปดาห์ที่ผ่านมาของวันพฤหัสบดีและวันศุกร์

กิจกรรมเสริมประสบการณ์
หน่วย ผลไม้เพื่อสุขภาพ
วันพฤหัสบดี (การถนอนมอาหารประเภทผลไม้ถนอม) วัตถุประสงค์ 1. ร่วมสนทนากับครูได้ 2. บอกวิธีการถนอมอาหารประเภทผลไม้ได้ 3. มีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น 4. พัฒนาทักษะการสังเกตและการเปรียบเทียบ สาระที่ควรเรียนรู้ - การถนอมอาหาร ผลไม้หลายชนิดสามารถนำมาทำอาหารเก็บไว้รับประทานได้นานๆ หลายวิธี เช่น ตากแห้ง เชื่อม แช่อิ่ม กวน ดอง ฯลฯ - ทักษะการสังเกต - ทักษะการเปรียบเทียบ ประสบการณ์สำคัญ 1. การร่วมสนทนาและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น 2. การถนอมอาหาร 3. การสังเกตสิ่งต่างๆโดยใช้ปราสาทสัมผัสด้วยการมอง ฟัง สัมผัส ชิมรสและดมกลิ่นอย่างเหมาะสม กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนำ เพลงสงบเด็ก เอามือวางไว้ที่ตัก ช่างน่ารักน่ารักจริงๆ เด็กดีไม่ดื้อไม่ซน เพราะเราทุกคนไม่ใช่ลูกลิง
1. ให้เด็กทายปริศนาคำทาย ดังนี้
- อะไรเอ่ย? ลำต้นอวบใหญ่ มีใบสีเขียว ออกผลครั้งเดียว เป็นเครือเป็นหวี ตอบ กล้วย ขั้นสอน 2. เด็กและครู ร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับการเก็บและการถนอมอาหารประเภทผลไม้ ดังนี้ - ทำอย่างไร เราจึงจะเก็บผลไม้ไว้รับประทานได้นานๆ - การเก็บและการถนอมอาหารมีวิธีใดบ้าง 3. ให้เด็กสังเกตรูปภาพผลไม้ที่ผ่านการถนอมอาหารมาแล้ว เช่น กล้วยตาก เงาะกระป๋อง ผลไม้ดอง ฯลฯ 4. ครูเขียนลงชาร์ต วิธีถนอมอาหาร
5. เด็กและครู ร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับผลไม้ที่ทำเองได้ที่บ้านกับผลไม้ที่ใช้เครื่องจักร ดังนี้ - ผลไม้ที่เราทำเองได้ที่บ้านมีอะไรบ้าง - ผลไม้ที่ใช้เครื่องจักรทำมีอะไรบ้าง





ขั้นสรุป 6. เด็กและครูร่วมกันสรุปวิธีการถนอมอาหารประเภทผลไม้ สื่อ 1. ปริศนาคำทาย 2. รูปภาพ 3. ชาร์ตวิธีถนอมอาหาร 4. ชาร์ตตารางผลไม้ที่ทำเองได้ที่กับผลไม้ที่ใช้เครื่องจักร การประเมิน สังเกต 1. การสนทนาและการตอบคำถาม 2. การร่วมกิจกรรม 3. ทักษะการสังเกตและการเปรียบเทียบ

คำแนะนำจากอาจารย์ผู้สอน - การใช้ปริศนาคำทายในขั้นนำ ต้องตอบโจทย์กับการสอนอย่างชัดเจน ต้องเชื่อมโยงเข้ามาสู่การสอน - การสอนต้องเป็นไปตามแผน ถ้าสอนไม่ตรงตามแผนถือว่าผิด - ปรับปรุงในเรื่องของการเขียน Mind Mapping ต้องเขียนด้วยลายมือที่สวย ชัดเจน ตัวบรรจง
กิจกรรมเสริมประสบการณ์ หน่วย บ้านแสนรัก วันพฤหัสบดี (หน้าที่ของคนในบ้าน) วัตถุประสงค์ 1. เด็กบอกหน้าที่ของตนเองขณะอยู่บ้านได้ 2. เด็กฟังและตอบคำถามได้ 3. เด็กสามารถร่วมสนทนาและแสดงความคิดเห็นได้ สาระที่ควรเรียนรู้ ทุกคนในบ้านมีหน้าที่ต่างกัน เราควรช่วยเหลือตนเองในเรื่องการอาบน้ำ แต่งตัว รับประทานอาหาร เก็บของเล่น เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระของพ่อแม่

ประสบการณ์สำคัญ ด้านร่างกาย 1. การปฏิบัติตนตามสุขอนามัย ด้านอารมณ์-จิตใจ 2. การแสดงออกอย่างสนุกสนานกับเรื่องตลก ขำขันและเรื่องราว เหตุการณ์ที่สนุกสนานต่างๆ ด้านสังคม 3. การปฏิบัติกิจวัตรประจำวันของตนเอง ด้านสติปัญญา 4. การแสดงความรู้สึกด้วยคำพูด กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนำ 1. ครูและเด็กร่วมกันท่องคำคล้องจอง
คำคล้องจอง ของใช้ประจำตัว ของใช้ของหนู ต้องดูให้ดี เก็บไว้เป็นที่ อย่าให้ปะปน แก้วน้ำ เสื้อผ้า ขนม อย่าให้สับสน เก็บไว้ให้ดี
2. ครูสนทนาเกี่ยวกับคำคล้องจอง โดยถามคำถาม เช่น - ในคำคล้องจองบอกให้เด็กทุกคนปฏิบัติหน้าที่อย่างไรบ้าง - นอกจากสิ่งที่มีอยู่ในคำคล้องจองเด็กๆมีหน้าที่อะไรอีก ขั้นสอน 3. ครูและเด็กร่วมกันสนทนา เกี่ยวกับหน้าที่ที่เด็กควรทำในบ้าน โดยครูใช้คำถาม ดังนี้ - ในขณะที่เด็กๆอยู่ที่บ้านเด็กช่วยคุณพ่อคุณแม่ทำงานอะไรบ้าง ? - ถ้าเด็กๆ วางของกระจัดกระจายเต็มบ้านจะเป็นอย่างไร ? - เด็กๆมีวิธีใดบ้างที่จะทำให้บ้านน่าอยู่ ? 4. ครูนำบัตรภาพเกี่ยวกับหน้าที่ต่างๆ มาให้เด็กดูพร้อมกับอธิบายรูปภาพนั้น 5. ให้ตัวแทนเด็กออกมาติดบัตรภาพลงในตารางที่ครูเตรียมไว้
ขั้นสรุป 6. เด็กและครูร่วมกันสรุปกิจกรรมหน้าที่ภายในบ้าน สื่อ 1. คำคล้องจอง 2. ตารางสรุปกิจกรรม 3. บัตรภาพ

การประเมิน สังเกต 1. การฟังและการตอบคำถาม 2. การทำงานร่วมกับผู้อื่น 3. การอธิบายหน้าที่ของตนเองขณะอยู่บ้าน

คำแนะนำจากอาจารย์ผู้สอน - การใช้คำถามกับเด็กไม่ควรถามว่า "ได้" หรือ "ไม่ได้" ให้ใช้คำว่า เช่น แก้วน้ำควรเก็บไว้ที่ไหน - หน้าที่ของพ่อกับแม่ สามารถบอกได้อีกนอกเหนือจาก ทำงาน เช่น พ่อหรือแม่ ทำงานหาเงินมาใช้จ่ายในครอบครัว , อบรมเลี้ยงดูลูก , เป็นหลักของครอบครัว - ขั้นสรุป ให้สรุปในสิ่งที่สอนเด็ก บอกกับเด็กว่า เมื่อเด็กๆเล่นของเล่นเสร็จแล้ว หน้าที่ของเด็กๆ ต้องเก็บของเล่นให้เข้าที่ และต้องเชื่อฟังคุณพ่อคุณแม่ - ภาพไม่จำเป็นต้องใหญ่มาก

กิจกรรมเสริมประสบการณ์ หน่วย บ้านแสนรัก วันศุกร์ (การปฏิบัติตนต่อคนในบ้าน)





วัตถุประสงค์ 1. เด็กสามารถร่วมสนทนาและแสดงความคิดเห็นได้ 2. บอกวิธีการปฏิบัติตนเป็นสมาชิกที่ดีเมื่ออยู่ที่บ้านได้ 3. เด็กกล้าแสดงออกและสามารถทำกิจกรรมร่วมกับผู้อื่นได้

สาระที่ควรเรียนรู้
การปฏิบัติตนต่อคนในครอบครัว เช่น การเป็นเด็กดี เชื่อฟังคุณพ่อคุณแม่ ช่วยพ่อแม่ ไม่เกเร ช่วยทำงานบ้าน เป็นต้น ประสบการณ์สำคัญ ด้านร่างกาย - การเคลื่อนไหวส่วนต่างๆของร่างกาย ด้านอารมณ์ - กล้าพูดกล้าแสดง - ออกอย่างเหมาะสม ด้านสังคม - การทำกิจกรรมร่วมกับผู้อื่น ด้านสติปัญญา - การตอบคำถาม และการสังเกต กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนำ
1. ครูเล่านิทานเรื่อง น้องไข่เจียวเป็นเด็กดีช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ให้เด็กฟังแล้วสนทนาเกี่ยวกับเนื้อเรื่องในนิทาน และเชื่อมโยงว่านอกจากในนิทานแล้วมีการปฏิบัติตนต่อคนในบ้านอย่างไรอีก แล้วบันทึกผลบนกระดาน โดยใช้คำถาม ดังนี้ - น้องไข่เจียวปฏิบัติตนในบ้านอย่างไรบ้าง - แล้วนอกจากในนิทาน เด็กๆมี วิธีปฏิบัติตนต่อคนในครอบครัวอย่างไร
ขั้นสอน 1. ครูนำภาพการปฏิบัติตนต่อคนในบ้านมาให้เด็กสังเกต ดังนี้ - ภาพเด็กเคารพเชื่อฟังพ่อแม่ - ภาพเด็กมีกิริยามารยาทที่สุภาพ - ภาพเด็กช่วยทำงานบ้าน - ภาพเด็กไม่เกเรหรือทำอันตรายผู้อื่น 2. ครูและเด็กร่วมกันสนทนาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับภาพ ดังนี้ - เด็กๆคิดว่า เด็กในภาพนี้ทำอะไรอยู่ - จากในภาพ เด็กๆควรปฏิบัติตามหรือไม่ เพราะอะไร 3. ครูขออาสาสมัครให้เด็กออกมาทำท่าทางกิจกรรมที่เด็กๆ ปฏิบัติตนเมื่ออยู่ที่บ้าน แล้วให้เพื่อนๆ ช่วยกันทายว่า ทำกิจกรรมอะไร ครูอธิบายเพิ่มเติม ขั้นสรุป 1. ครูและเด็กร่วมกันสรุปเกี่ยวกับการปฏิบัติตนเมื่ออยู่ที่บ้าน ดังนี้ ทุกคนในบ้านต้องมีหน้าที่ ในการปฏิบัติ เด็กๆ ก็ต้องมีหน้าที่ในการปฏิบัติตนต่อคุณพ่อคุณแม่และคนในครอบครัว ดังนั้นทุกคน มีหน้าที่ในการดูแลบ้านและปฏิบัติตนต่อคนในบ้าน สื่อ 1. นิทานเรื่อง น้องไข่เจียวเป็นเด็กดีช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน 2. ภาพเด็กทำกิจกรรมต่างๆ ในบ้าน การประเมิน สังเกตพฤติกรรมของเด็ก ดังนี้ 1. บอกวิธีการปฏิบัติตนเป็นสมาชิกที่ดี 2. การฟังและตอบคำถาม 3. การแสดงออกและการทำกิจกรรมร่วมกับผู้อื่น


คำแนะนำจากอาจารย์ผู้สอน - ขั้นนำ ควรใช้นิทานเป็นเทคนิคในการนำเข้าสู่บทเรียน - ใช้น้ำเสียงและมีเทคนิคในการเล่านิทานของแต่ละตัวละคร - การสอนขั้นเข้าสู่บทเรียนต้องเชื่อมโยงกับขั้นนำ - ต้องมีการวางแผนมนการเล่านิทานล่วงหน้า

กิจกรรมเสริมประสบการณ์ หน่วย ใต้ร่มเงาไม้ วันศุกร์ (ข้อควรระวังจากต้นไม้






วัตถุประสงค์ 1. เด็กสามารถรู้จักข้อควรระวังของต้นไม้ 2. เด็กสามารถร่วมสนทนากับครูได้ 3. เด็กสามารถร่วมกิจกรรมด้วยความสนุกสนาน สาระที่ควรเรียนรู้ กิจกรรมการ เล่านิทาน เป็นกิจกรรมที่เรียนรู้ผ่านการเล่านิทานโดยใช้หน่วยใต้ร่มเงาไม้ ในหัวข้อ ข้อควรระวัง สอนให้เด็กระวังกิ่งไม้หัก ยางจากใบไม้ สัตว์หรือแมลงที่อาศัยอยู่ในต้นไม้ และเวลาฝนไม่ควรอยู่ใต้ต้นไม้

ประสบการณ์สำคัญ ด้านร่างกาย - การเคลื่อนไหวอยู่กับที่ ด้านอารมณ์และจิตใจ - การแสดงออกอย่างสนุกสนานกับเรื่องตลก ขำขัน เรื่องราว / เหตุการณ์สนุกสนาน ด้านสังคม - การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและเคารพความคิดเห็นของผู้อื่น ด้านสติปัญญา - การแสดงความรู้สึกด้วยคำพูด






กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนำ 1. ครูร้องเพลงสงบเด็ก (เพลงลมเพลมพัด) จากนั้นครูก็สนทนากับเด็กเรื่องต้นไม้ และนำเข้าสู่การ เล่านิทาน
ขั้นสอน 2. ครูเล่านิทาน เรื่อง ใต้ร่มเงาไม้ ให้เด็กฟัง พร้อมอธิบายให้เด็กเห็นภาพชัดเจน ตลอดเนื้อเรื่อง (เนื้อเรื่อง หลังบ้านของชูใจ มีต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งซึ่งเป็นต้นไม้ที่พ่อของชูใจปลูกไว้เมื่อ 30ปีทีแล้ว ชูใจชอบมานั่งเล่นใต้ต้นไม้ต้นนี้ประจำ วันหนึ่งแม่เห็นกิ่งไม้ตกใส่หัวของชูใจ แม่เลยเป็นห่วง และ บอกให้ชูใจระวังเกี่ยวกับต้นไม้ เพราะต้นไม้ต้นนี้ปลูกไว้นานแล้ว ชูใจก็ฟังแม่อย่างตั้งใจ และมีความสุขที่ได้เล่นใต้ต้นไม้ต้นนี้ ) ขั้นสรุป 3. ครูทวนข้อควรระวังกับเด็กอีกครั้ง 4. ครูถามเด็กว่านอกจากข้อควรระวังที่กล่าวมามีอะไรอีก และนำคำตอบของเด็กบันทึกลงในแผ่นชาร์ต สื่อ - นิทาน - ฉากประกอบนิทาน / ตัวละคร - แผ่นชาร์ตข้อควรระวัง การประเมิน สังเกตจาก 1. เด็กสามารถรู้จักข้อควรระวังของต้นไม้ 2. เด็กสามารถสนทนากับครูได้ 3. เด็กสามารถร่วมกิจกรรมด้วยความสนุกสนาน
คำแนะนำจากอาจารย์ผู้สอน - การแต่งนิทาน ต้องสอดคล้องกับเรื่องที่จะสอนและมีความกระชับ - การใช้ข้อความที่ต้องพูดกับเด็ก ต้องมีความกระชับ ใช้คำสั้นๆ ง่ายๆ ใช้คำควบกล้ำให้ชัดเจน - การสรุปในแผ่นชาร์ท สรุปได้ว่า "เวลาที่เด็กๆ อยู่ใต้ต้นไม้หรือใต้ร่มไม้ เด็กๆต้องระวัง กิ่งไม้ที่อยู่ บนต้นไม้สัตว์ที่มีพิษ เช่น งู แมลงต่างๆ " - การทำแผ่นชาร์ทบึนทึกข้อมูลของข้อควรระวัง ให้ทำเป็นตาราง 2 ช่อง
เพิ่มเติม / Additional * การทำงานของสมอง >> สมองทำงานอย่างไร? - เก็บรวบรวมข้อมูล - สั่งการของร่างกาย - การลงมือปฏิบัติ * วินัยเชิงบวก คือ การใช้ภาษาในการสื่อสารที่ให้กำลังเด็ก * ถ้าเด็กวาดภาพ ครูผู้สอนให้ใช้คำถาม ถามเด็กว่า "เด็กๆ คิดว่า รูปที่เด็กๆวาดเป็นรูปอะไร" * ทุกครั้งที่เด็กร้องเพลง ให้เด็กกำกับจังหวะโดยการปรบมือไปตามจังหวะ


ความรู้ที่ได้รับ ได้ทักษะเกี่ยวกับการสอน เทคนิคในการสอน วิธีจัดการเรียนการสอน ที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการเรียนการสอนได้จริง
การนำไปประยกต์ใช้  นำไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด นำไปใช้เมือได้ลงมือปฏิบัติจริง ความรู้ที่ได้ไปพัฒนาและต่อยอด


การประเมิน  
ประเมินตนเอง  ได้ทักษะเกี่ยวกับการสอน เทคนิคในการสอน วิธีจัดการเรียนการสอน
ประเมินเพื่อน  เพื่อนๆตั้งใจเรียน และตั้งใจทำงาน
ประเมินอาจารย์ อาจารย์น่ารัก ใจดี สอนเข้าใจง่าย ละเอียด คอยอธิบายและแนะนำในเนื้อหาเรียนการสอน








Record 13
Tuesday  3 april 2018



เนื้อหาการเรียนการสอน

สอนกิจกรรมเสริมประสบการณ์ (วันพุธ) และ (วันพฤหัสบดี) ของแต่ละหน่วย
กิจกรรมเสริมประสบการณ์
หน่วย ผลไม้ วันพุธ (ประโยชน์ของผลไม้) วัตถุประสงค์ 1. บอกประโยชน์ของผลไม้ได้ 2. สนทนากับครูและเพื่อนๆได้ 3. แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและเคารพความคิดเห็นของผู้อื่น 4. ฝึกทักษะกระบวนการคิด
สาระที่ควรเรียนรู้ ประโยชน์ของผลไม้ 1. เป็นอาหารให้กับคนและสัตว์ 2. มีวิตามิน ช่วยบำรุงส่วนต่างๆ ของร่างกาย และมีใยอาหาร ช่วยในระบบขับถ่าย 3.เราจะถนอมอาหารไว้กินนานด้วยวิธี การอบแห้ง ตาก 4. สร้างอาชีพและสร้างรายได้ เช่น ขายผลไม้ ชาวสวน และนำไปแปรรูปเพื่อส่งออก  








ประสบการณ์สำคัญ 1. การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและเคารพความคิดเห็นของผู้อื่น 2. การแสดงความรู้สึกด้วยคำพูด 3. การมีโอกาสได้รับความรู้สึก ความสนใจ ความต้องการของตนเองและผู้อื่น 4. การพูดกับผู้อื่นเกี่ยวกับประสบการณ์ของตนเอง กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนำ 1. ครูเล่านิทานให้เด็กฟัง เรื่อง ผลไม้ดีมีประโยชน์ ขั้นสอน 2. ครูและเด็กร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับนิทานโดยใช้คำถาม ดังนี้ - ในนิทานมีผลไม้อะไรบ้าง - เด็กๆรู้จักผลไม้ชนิดไหนอีกบ้าง - ในนิทานผลไม้มีประโยชน์อย่างไรบ้าง - นอกใจนิทานเด็กๆคิดว่าผลไม้มีประโยชน์อะไรบ้าง - ในนิทานมีการถนอมผลไม้อย่างไรบ้าง - นอกจากในนิทานเด็กๆมีวิธีถนอมผลไม้ด้วยวิธีใดบ้าง 3. ครูถามความรู้เดิมเด็กเกี่ยวกับประโยชน์และวิธีถนอมผลไม้ 4. ครูเขียนลง Mind Mapping ประโยชน์ผลไม้และวิธีถนอมอาหาร
ขั้นสรุป 5. ครูและเด็กร่วมกันสรุปประโยชน์และวิธีถนอมผลไม้ ครูให้ตัวแทนเด็กออกมาจับคู่ประโยชน์ผลไม้




สื่อ / แหล่งการเรียนรู้ 1. นิทาน เรื่อง ผลไม้ดีมีประโยชน์ 2. Mind Mapping ประโยชน์ผลไม้ 3. Mind Mapping วิธีถนอมอาหาร การประเมิน สังเกต 1 .การบอกประโยชน์ของผลไม้ 2. การสนทนากับครูและเพื่อนๆ 3. การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและเคารพความคิดเห็นของผู้อื่น 4. การทักษะกระบวนการคิดในการตอบคำถาม การบูรณาการ - คณิตศาสตร์ - สุขศึกษา - ภาษา

คำแนะนำจากอาจารย์ผู้สอน - เรื่องการถนอมอาหาร สามารถสอนได้อีก 1 วัน - ให้เด็กเลือกผลไม้ที่เด็กอยากทำ เพื่อให้เด็กได้เตรียมผลไม้มาทำเครื่องดื่มในวันพรุ่งนี้ของการสอน - การเข้าสู่การสอนควรมีภาพมาให้เด็กได้สังเกตจริงๆ - การเล่านิทานในขั้นนำ สนทนากับเด็กและถามเด็กว่า ในนิทานมีผลไม้อะไรบ้าง - การทำสื่อการสอน ควรใช้สื่อที่แข็งแรง ประหยัด และสามารถใช้งานได้หลายๆ ครั้ง - หลังจากการสรุป ต้องมีการทบทวน การจับคู่

กิจกรรมเสริมประสบการณ์ หน่วย ตัวฉัน (วันพุธ) กิจกรรมการเรียนรู้




ขั้นนำ 1. ครูและเด็กร่วมกันร้องเพลง “ฉันรักร่างกายของฉัน” 2. ครูและเด็กสนทนาเกี่ยวกับเพลง ขั้นสอน 3. ครูนำแผ่นชาร์ทออกมา กระตุ้นเด็กด้วยคำถาม เช่น “เด็กๆคิดว่าเราจะดูแลรักษาร่างกายของเราได้ด้วยวิธีใดบ้าง” เป็นต้น 4. ครูและเด็กร่วมกันแลกเปลี่ยนความรู้ในเรื่องการดูแลรักษาร่างกาย และจดบันทึกสิ่งที่เด็กบอกเล่าลงในแผ่นชาร์ท ขั้นสรุป 5. ครูและเด็กร่วมกันทบทวนความรู้เรื่องการดูแลร่างกายของเรา
คำแนะนำจากอาจารย์ผู้สอน - สื่อในการสอน ไม่ควรใช้กระดาษสีสะท้อนแสง - การสาธิตในขั้นตอนการล้างมือ ครูทำให้ดูแล้วให้เด็กทำตามไปด้วย

กิจกรรมเสริมประสบการณ์ หน่วย สัมผัสทั้ง 5 (วันพฤหัสบดี)




วัตถุประสงค์ 1. เด็กสนทนาเรื่องการได้ยินร่วมกันได้ 2. เด็กเปรียบเทียบเสียงที่ได้ยินได้ 3. เด็กบอกแหล่งกำเนิดเสียงได้ สาระที่ควรเรียนรู้ แหล่งกำเนิดเสียง - ธรรมชาติ - มนุษย์สร้างขึ้น ประสบการณ์สำคัญ ด้านร่างกาย 1. การรักษาความปลอดภัยของตนเองและผู้อื่นในกิจวัตรประจำวัน ด้านอารมณ์-จิตใจ 2. การแสดงปฏิกิริยาโต้ตอบเสียงดนตรี ด้านสังคม 3. การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและเคารพความคิดเห็นของผู้อื่น ด้านสติปัญญา 4. การรู้จักสิ่งต่างๆด้วยการมอง ฟัง สัมผัส ชิมรสและดมกลิ่น กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนำ 1. ครูและเด็กๆร่วมกันร้องเพลง “ ตาดูหูฟัง ”
เรามีตาไว้ดู เรามีหูไว้ฟัง คุณครูท่านสอนท่านสั่ง ต้องตั้งใจฟัง ต้องตั้งใจดู
2. ครูและเด็กๆร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับการได้ยิน ขั้นสอน 3. ครูให้เด็กๆฟังเสียงที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ดังนี้ ฝนตก ฟ้าผ่า นกร้อง แล้วให้เด็กๆบอกว่าได้ยินเสียงอะไร จากนั้นบันทึกผล 4. ครูให้เด็กๆฟังเสียงที่เกิดขึ้นจากมนุษย์ ดังนี้ ร้องเพลง ดนตรี เสียงพูด แล้วให้เด็กๆบอกว่าได้ยินเสียงอะไร จากนั้นบันทึกผล
5. ครูให้เด็กๆแยกเสียงที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติและเกิดขึ้นจากมนุษย์
ขั้นสรุป 6. ครูสนทนาร่วมกันกับเด็กเกี่ยวกับแหล่งกำเนิดเสียงว่ามีอะไรบ้าง เสียงที่เรียนไปมีเสียงอะไรบ้างและนอกเหนือจากที่เรียนไปมีเสียงอะไรอีกบ้าง สื่อ / แหล่งการเรียนรู้ - ชาร์จเพลง - เสียงต่างๆ - ตารางบันทึกผล - ตารางแยกแหล่งกำเนิดเสียง
การประเมิน สังเกต 1. เด็กสามารถสนทนาเรื่องการได้ยินร่วมกันได้ 2. เด็กสามารถเปรียบเทียบเสียงที่ได้ยินได้ 3. เด็กสามารถบอกแหล่งกำเนิดเสียงได้ การบูรณาการ - วิทยาศาสตร์
คำแนะนำจากอาจารย์ผู้สอน - การเขียนแผนการสอน วัตถุประสงค์ต้องสัมพันธ์และสอดคล้องกัน - สาระการเรียนรู้ ต้องอธิบายให้ละเอียด - ประสบการณ์สำคัญ ต้องเลือกให้สอดคล้องกับเรื่องที่สอน - สื่อการสอนควรมีภาพประกอบมาติด ไม่ควรมีแต่ตัวหนังสือเพียงอย่างเดียว - สื่อที่เป็นเสียงเพลง ควรนำเสียงที่มีความชัดเจน เด็กสามารถฟังได้ง่าย
กิจกรรมเสริมประสบการณ์ หน่วย ใต้ร่มเงาไม้ วันพฤหัสบดี (ประโยชน์ของต้นไม้) วัตถุประสงค์ 1. เพื่อให้เด็กบอกประโยชน์ของต้นไม้ได้อย่างน้อย 5 อย่าง 2. เพื่อให้เด็กร่วมสนทนากับครูได้ 3. เด็กตอบคำถามได้ สาระที่ควรเรียนรู้ ต้นไม้มีประโยชน์หลายด้านทั้งต่อตนเอง ต่อโลก และในเชิงพาณิชย์ ได้แก่ ไม้แปรรูป เป็นต้น ประสบการณ์สำคัญ ด้านร่างกาย - การประสานสัมพันธ์ระหว่างตากับมือ ด้านอารมณ์และจิตใจ - การร่วมกิจกรรมด้วยความสนุกสนาน ด้านสังคม - การเล่นและทำงานร่วมกับผู้อื่น ด้านสติปัญญา - การแสดงความรู้สึกด้วยคำพูด
กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนำ 1. ครูแจกจิ๊กซอว์รูปโต๊ะเก้าอี้ให้เด็กออกมาต่อให้สมบูรณ์ที่กระดานหน้าห้อง 2. ครูสนทนาเกี่ยวกับจิ๊กซอว์รูปโต๊ะ “เด็กๆทราบไหมว่าโต๊ะเก้าอี้ทำมาจากอะไร” ขั้นสอน 3. ครูบอกประโยชน์ของต้นไม้ทั้ง 3 ด้าน ได้แก่ ประโยชน์ต่อตนเอง ประโยชน์ต่อโลกประโยชน์ เชิงพาณิชย์ 4. ครูให้เด็กออกมาเลือกรูปภาพที่ครูเตรียมไว้แล้วให้เด็กๆช่วยกันดูว่ารูปภาพที่เด็กๆเลือกมาเป็นประโยชน์ในด้านไหนแล้วนำมาติดลงในตาราง ขั้นสรุป 5. ครูและเด็กร่วมกันสรุปประโยชน์ของต้นไม้ “ครูถามเด็กๆว่าสรุปแล้วต้นไม้สามารถนำมาทำอะไร ได้บ้าง” สื่อ / แหล่งการเรียนรู้ - จิ๊กซอว์รูปโต๊ะเก้าอี้ - แผ่นบันทึกประโยชน์ของต้นไม้ การประเมิน สังเกต 1. เด็กบอกประโยชน์ของต้นไม้ได้อย่างน้อย 5 อย่าง 2. การตอบคำถามการแลกเปลี่ยนความคิดของเด็ก 3. การสนทนาถามเด็ก การบูรณาการ - ภาษา - วิทยาศาสตร์ - คณิตศาสตร์
คำแนะนำจากอาจารย์ผู้สอน - สื่อประกอบประโยชน์ของต้นไม้ ต้องมีภาพมาให้เด็กสังเกต - การนำภาพไปติดในตารางให้เด็กเป็นคนเลือกเอง จากที่ครูเตรียมไว้ - ประโยชน์ของต้นไม้ในเชิงพาณิชย์เป็นคำที่ยากเกินไปสำหรับเด็ก ควรใช้คำที่ง่ายและเด็กเข้าใจ เช่น เกิดอาชีพ เป็นต้น - ครูถามคำถามเด็ก เพื่อให้เด็กได้ตอบ จากสิ่งที่เด็กเห็น ได้ยินจากครู ผู้ปกครอง และได้รับจาก ประสบการณ์เดิม - จังหวะของการสอนต้องอาศัยภาพเป็นตัวนำในการสอน
กิจกรรมเสริมประสบการณ์ หน่วย ตัวฉัน วันพฤหัสบดี (การปฏิบัติตนให้มีพลานามัยที่ดี)

คำแนะนำจากอาจารย์ผู้สอน - จังหวะการสอนต้องอาศัยภาพเป็นตัวนำในการสอน - ให้เด็กสังเกตภาพแล้วสนทนากับเด็กว่า ภาพที่เด็กๆ เห็นเป็นภาพอะไร - วิธีการบันทึก สามารถทำได้โดยการนำภาพไปติดในกรอบ และยังสามารภนำภาพไปติดบนผัง Mind Mapping ได้อีก

กิจกรรมเสริมประสบการณ์ หน่วย อาหารดีมีคุณค่า วันพฤหัสบดี (Cookking หมูสร่ง) วัตถุประสงค์ 1. เด็กบอกวัตถุดิบในการทำหมูสร่งได้ 2. เด็กบอกขั้นตอนการทำหมูสร่งได้ 3. เด็กบอกรสชาติของหมูสร่งได้
สาระที่ควรเรียนรู้ วัตถุดิบ ขั้นตอนในการทำและรสชาติหมูสร่ง ประสบการณ์สำคัญ ด้านร่างกาย - การปฏิบัติตนตามสุขอนามัย ด้านอารมณ์และจิตใจ - การร้องเพลง ด้านสังคม - การเล่นและการทำงานร่วมกับผู้อื่น ด้านสติปัญญา - การรู้จักสิ่งต่างๆด้วยการมอง ฟัง สัมผัส ชิมรสและดมกลิ่น
กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนำ - ครูและเด็ก ๆ ร่วมกันทำกิจกรรมเปิดภาพปริศนา ขั้นสอน - ครูและเด็ก ๆ สนทนาเกี่ยวกับหมูสร่ง เช่น “เด็กๆรู้จักหมูสร่งไหมคะ” “เด็กๆเคยรับประทานหมูสร่งไหมคะ” เป็นต้น - ครูและเด็กๆร่วมกันอ่านวัตถุดิบ อุปกรณ์และวิธีการทำหมูสร่ง - ครูสาธิตวิธีการทำหมูสร่ง - ครูให้เด็กแบ่งกลุ่ม4กลุ่ม ครูขอตัวแทนออกมารับวัตถุดิบ อุปกรณ์ - สมาชิกในกลุ่มร่วมมือกันทำหมูสร่ง - ครูขอตัวแทนของแต่ละกลุ่ม 1 คนออกมานำเสนอหมูสร่ง ขั้นสรุป - ครูตั้งคำถามว่า “วัตถุดิบในการทำหมูสร่งมีอะไรบ้าง?” “หมูสร่งมีขั้นตอนในการทำอย่างไร?” “รสชาติเป็นอย่างไร?” สื่อ / แหล่งการเรียนรู้ - แผ่นชาร์ทวัตถุดิบและวัตถุดิบจริงในการทำหมูสร่ง - แผ่นชาร์ทอุปกรณ์และอุปกรณ์จริงในการทำหมูสร่ง - แผ่นชาร์ทขั้นตอนการทำหมูสร่ง การประเมิน สังเกตจากการทำกิจกรรมของเด็ก 1. เด็กสามารถบอกวัตถุดิบในการทำหมูโสร่งได้ 2. เด็กสามารถบอกขั้นตอนการทำหมูโสร่งได้ 3. เด็กบอกรสชาติของหมูโสร่งได้
คำแนะนำจากอาจารย์ผู้สอน - ต้องเตรียมอุปกรณ์วางไว้ให้พร้อมให้ครบทุกกลุ่ม - บอกสัดส่วนของวัตถุดิบให้ละเอียด - ตั้งประเด็นปัญหาให้เด็ก - การปั้นหมูสร่ง สามารถปั้นได้หลายรูปทรง ไม่จำเป็นต้องเป็นทรงกลมอย่างเดียว
ทักษะ / Skills - ทักษะการฟัง - ทักษะการสอน - ทักษะการเขียน - ทักษะการสังเกต - ทักษะการเชื่อมโยง - ทักษะการร้องเพลง - ทักษะการต่อยอด เทคนิคการสอน / Teaching Techniques - การให้คำแนะนำ - การสาธิต - ให้นักศึกษาปฏิบัติ






Record 12
Monday 2 April 2018



เนื้อหาการเรียนการสอน





การจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการ เป็นการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ให้แก่ผู้เรียนตามความสนใจ ความสามารถ และความต้องการ โดยการเชื่อมโยงสาระการเรียนรู้ในศาสตร์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องสัมพันธ์กันและสอดคล้องกับการทำงานสมองของเด็ก

รูปแบบการเรียนรู้ 1. Brain Based Learning หรือ BBL Brain Based Learning การใช้ความรู้ความเข้าใจที่เกี่ยวข้องกับสมองเป็นเครื่องมือในการออกแบบกระบวนการเรียนรู้และกระบวนการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อสร้างศักยภาพสูงสุดในการเรียนรู้ของมนุษย์ โดยเชื่อว่าโอกาสทองของการเรียนรู้อยู่ระหว่างแรกเกิด – 10 ปี การจัดการเรียนรู้ตามหลักการพัฒนาสมอง หรือ BBL (Brain-Based Learning) เป็นการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับพัฒนาการด้านโครงสร้างและการทำงานของสมอง เหมาะสมกับทุกช่วงวัย ตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดาถึงวัยชรา หลักการสำคัญในการเรียนรู้ของสมองเด็กปฐมวัยและประถมศึกษา คือ “เล่นคือเรียน เรียนคือเล่น” ต้องเรียนด้วยความเข้าใจมากกว่าความจำ เรียนรู้จากการสัมผัสจับต้องของจริงไปสู่สัญลักษณ์ ด้วยอารมณ์ที่เปิดรับการเรียนรู้ และต้องเรียนรู้ด้วยการลงมือทำ (active learning) แทนการนั่งฟังบรรยายเพียงอย่างเดียว (passive learning)




2. EF Executive Functions  




คือ กระบวนการทางความคิดในส่วน "สมองส่วนหน้า" ที่เกี่ยวข้องกับความคิด ความรู้สึก การกระทำ เป็นความสามารถของสมองที่ใช้บริหารจัดการชีวิตในเรื่องต่างๆ
สำหรับกลุ่มทักษะ EF ที่สำคัญมีทั้งหมด 9 ด้าน 1.ทักษะความจำที่นำมาใช้งาน (Working Memory) คือทักษะจำหรือเก็บข้อมูลจากประสบการณ์ที่ผ่านมา และดึงมาใช้ประโยชน์ตามสถานการณ์ที่พบเจอ เด็กที่มีเวิร์กกิ้ง เมมโมรีดี ไอคิวก็จะดีด้วย 2.ทักษะการยับยั้งชั่งใจ-คิดไตร่ตรอง (Inhibitory Control) คือความสามารถในการควบคุมความต้องการของตนเองให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม เด็กที่ขาดความยับยั้งชั่งใจจะเหมือน "รถที่ขาดเบรก" อาจทำสิ่งใดโดยไม่คิด มีปฏิกิริยาในทางที่ก่อให้เกิดปัญหาได้ 3.ทักษะการยืดหยุ่นความคิด (Shift Cognitive Flexibility) คือความสามารถในการยืดหยุ่นหรือปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้ ไม่ยึดตายตัว 4.ทักษะการใส่ใจจดจ่อ (Focus) คือความสามารถในการใส่ใจจดจ่อ มุ่งความสนใจอยู่กับสิ่งที่ทำอย่าง ต่อเนื่องในช่วงเวลาหนึ่ง 5.การควบคุมอารมณ์ (Emotion Control) คือ ความสามารถในการควบคุมแสดงออกทางอารมณ์ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม เด็กที่ควบคุมอารมณ์ตัวเอง ไม่ได้ มักเป็นคนโกรธเกรี้ยว ฉุนเฉียว และอาจมีอาการซึมเศร้า
6.การประเมินตัวเอง (Self-Monitoring) คือการสะท้อนการกระทำของตนเอง รู้จักตนเอง รวมถึงการประเมินการงานเพื่อหาข้อบกพร่อง 7.การริเริ่มและลงมือทำ (Initiating) คือ ความสามารถในการริเริ่มและลงมือทำตามที่คิด ไม่กลัวความล้มเหลว ไม่ผัดวันประกันพรุ่ง 8.การวางแผนและการจัดระบบดำเนินการ (Planning and Organizing) คือทักษะการทำงาน ตั้งแต่การตั้งเป้าหมาย การวางแผน การมองเห็นภาพรวม ซึ่งเด็กที่ขาดทักษะนี้จะวางแผนไม่เป็น ทำให้งานมีปัญหา 9.การมุ่งเป้าหมาย (Goal-Directed Persistence) คือ ความพากเพียรมุ่งสู่เป้าหมาย เมื่อตั้งใจและลงมือทำสิ่งใดแล้ว ก็มีความมุ่งมั่นอดทน ไม่ว่าจะมีอุปสรรคใดๆ ก็พร้อมฝ่าฟันให้สำเร็จ
ทดสอบสอนกิจกรรมเสริมประสบการณ์ (วันพุธ) ของแต่ละหน่วย

กิจกรรมเสริมประสบการณ์ หน่วย อาหารดีมีคุณค่า




วัตถุประสงค์
1. เด็กสามารถตอบคำถามได้
2. ร่วมกิจกรรมด้วยความสนใจ 3. เด็กบอกชื่ออาหารได้ 4. เด็กสามารถแสดงความคิดเห็นได้ สาระที่ควรเรียนรู้ การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและเคารพความคิดเห็นของผู้อื่น ประสบการณ์สำคัญ 1. บอกประโยชน์ของอาหารแต่ละประเภทได้ ข้าว - ให้พลังงาน เนื้อสัตว์ - ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ผัก - สร้างภูมิต้านทานเชื้อโรค ผลไม้ - บำรุงสุขภาพ ไขมัน - ให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย
กิจกรรมการเรียนรู้ 1. ครูเล่านิทานเรื่อง “อาหารหารหลัก 5 หมู่” 2. ครูและเด็กสนทนาเรื่องอาหาร5หมู่ในนิทาน 3. เด็กบอกชื่ออาหารที่รับประทานในตอนเช้าโดยใช้คำถามดังนี้ - เมื่อเช้าเด็กๆทานอาหารอะไรบ้าง 4. ครูมีภาพอาหารประเภทต่างๆ และ ภาพคนที่รับประทานอาหาร 5 หมู่ เช่น เนื้อสัตว์ - ภาพคนวิ่ง เนื้อสัตว์ - คนใช้กล้ามเนื้ออย่างแข็งแรง 5. หาอาสาสมัครมาจับคู่ความสัมพันธ์ระหว่างอาหารกับประโยชน์ให้ถูกต้อง
6. ครูและเด็กร่วมกันประโยชน์ของอาหาร สื่อ / แหล่งการเรียนรู้ นิทานเรื่อง “อาหารหลัก5หมู่” การประเมิน สังเกต 1. การตอบคำถามจากครู 2. การสนทนาและความคิดเห็น
คำแนะนำจากอาจารย์ผู้สอน - การเล่านิทานในขั้นนำ ต้องมีฉากของนิทานประกอบ - ตัวละครของนิทาน ต้องมีชื่อตัวละครด้วย

กิจกรรมเสริมประสบการณ์ หน่วย ผีเสื้อ (ปัจจัยการดำรงชีวิต)
คำแนะนำจากอาจารย์ผู้สอน




- ขั้นนำในการใช้เพลง ให้สนทนากับเด็กในเนื้อหาของเพลงหลังจากที่ร้องเพลงเสร็จแล้ว เช่น เด็กๆ คิดว่าผีเสื้อกินอะไรเป็นอาหาร แล้วนอกเหนือจากนี้ผีเสื้อกินอะไรเป็นอาหารอีกบ้าง - ขั้นสอน ให้เด็กนำภาพที่ครูเตรียมไว้ไปติดในวงจรชีวิตของผีเสื้อ

กิจกรรมเสริมประสบการณ์ หน่วย สัมผัสทั้ง 5 (หน้าที่ของอวัยวะ) วัตถุประสงค์ 1. ร่วมสนทนากับครูได้และเพื่อนๆได้ 2. เปรียบเทียบการรับรู้รสชาติต่างๆ 3. ร่วมกิจกรรมได้อย่างสนุกสนาน สาระที่ควรเรียนรู้ การชิมรส อาหารแต่ละชนิดจะมีรสชาติไม่เหมือนกันบางชนิดหวาน เค็ม เปรียว เรารับรู้รสต่างๆได้โดยผ่านปุ่มเล็กๆที่ลิ้นของเรา ประสบการณ์สำคัญ 1. การร่วมสนทนาและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น 2. การสังเกตสิ่งต่างๆ โดยใช้ประสาทสัมผัสด้วยการมอง ฟัง สัมผัส ชิมรสและดมกลิ่นอย่างเหมาะสม 3. การแสดงอย่างสนุกสนานกับเรื่องตลก ขำขัน และเรื่องราว/เหตุการณ์ที่สนุกสนานต่างๆ กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนำ 1. ครูใช้ปริศนาคำทายมาทายเด็กๆดังนี้ ฉันเป็นใคร อยู่ในปากคน แลบเลียสับสน รสหวาน เปรี้ยว เค็ม (ลิ้น) ขั้นสอน 2. ครูนำ น้ำตาล มาให้เด็กๆชิม แล้วให้จำรสชาติที่ชิม ให้เด็กชิม น้ำเกลือและน้ำตาลละลายน้ำ ให้เลือกและหยิบหมายเลข 1หรือหมายเลข 2 ที่มีรสชาตเดียวกันกับน้ำตาล ครูนำ เกลือผง มาให้เด็กๆชิม แล้วให้จำรสชาติที่ชิม ให้เด็กชิม น้ำเกลือและน้ำมะนาวละลายน้ำ ให้เลือกและหยิบหมายเลข 1หรือหมายเลข 2 ที่มีรสชาตเดียวกันกับเกลือ ขั้นสรุป 4. เด็กและครูร่วมกันสรุปเกี่ยวกับรสชาติโดยใช้คำถามดังนี้ - ถ้าเรามองดูของในภาชนะจะบอกได้หรือไม่ว่ามีรสชาติอะไร เราควรทำอย่างไร เพราะเหตุใด สื่อ / แหล่งการเรียนรู้ 1. ปริศนาคำทาย 2. เกลือ น้ำตาล มะนาว 3. ภาชนะ 3 ใบ การประเมิน สังเกต 1. การสนทนาและการตอบคำถาม 2. การร่วมกิจกรรม
คำแนะนำจากอาจารย์ผู้สอน - ต้องมีตารางบันทึกการชิมรสชาดิ หรือ ตารางนำเสนอข้อมูล - ยกตัวอย่างสิ่งที่จะให้เด็กชิม ใช้แค่ 1 คู่ - ครูต้องสอนเด็กให้รู้จักการชิมที่ถูกต้อง หากชิมผิด จะก่อให้เกิดอันตรายได้

กิจกรรมเสริมประสบการณ์ หน่วย บ้าน (สมาชิกในบ้าน)
คำแนะนำจากอาจารย์ผู้สอน - สนทนาเนื้อในเพลง "บ้านของเรามีใครกันบ้าง" - ควรให้เด็กๆมาช่วยครูติดความสัมพันธ์ของคนในบ้าน - การทำบันทึกผังความสัมพันธ์สมาชิกในบ้าน ต้องมีการวางแผนให้รอบคอบ วางเส้นการเชื่อม ความสัมพันธ์ให้ตรง

กิจกรรมเสริมประสบการณ์ หน่วย ใต้ร่มเงาไม้ (ปัจจัยการดำรงชีวิต) วัตถุประสงค์ 1. เด็กปฏิบัติตามคำสั่งของครูได้ 2. เด็กบอกขั้นตอนการปลูกต้นถั่วเขียวและวิธีการดูแลรักษาได้ 3. เด็กบอกการเปลี่ยนแปลงของต้นถั่วเขียวได้
สาระที่ควรเรียนรู้ ขั้นตอนการปลูกต้นถั่วเขียว 1. วางกระดาษทิชชู่ไว้ในแก้ว แล้วพรมน้ำให้เปียก 2. ใช้ช้อนตักเมล็ดถั่วเขียว 4-5 ช้อน แล้วโรยลงในแก้ว 3. นำกระดาษทิชชู่มาวางทับเมล็ดถั่วเขียวที่ แล้วพรมน้ำให้เปียก วิธีการดูแลต้นถั่วเขียว รดน้ำทุกวันวันละ 3-4 เวลา หรือนำไปไว้ในที่ที่มีแสงแดดเพื่อให้ต้นถั่วเขียวเจริญเติบโต ประสบการณ์สำคัญ ด้านร่างกาย - การประสานสัมพันธ์ระหว่างมือกับตา - การปฏิบัติตนตามสุขอนามัย ด้านอารมณ์ – จิตใจ - การแสดงออกอย่างสนุกสนานในการกิจกรรม ด้านสังคม - การเล่นและการทำงานร่วมกับผู้อื่น ด้านสติปัญญา - การแสดงความรู้สึกด้วยคำพูด - การอธิบายเกี่ยวกับสิ่งของ เหตุการณ์ และความสัมพันธ์ ของสิ่งต่างๆ - การทดลองสิ่งต่างๆ
กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนำ 1. ครูและเด็กร้องเพลง “ดูแลรักษาต้นไม้”
ต้นไม้จะใหญ่งอกงาม เราพยายามบำรุงรักษา รดน้ำ พรวนดิน ถอนหญ้า ใส่ปุ๋ยนานา กำจัดแมลง เอย
2. ครูถามเด็กว่าในเพลงนี้มีวิธีการดูแลต้นไม้อย่างไรบ้าง แล้วนอกเหนือจากในเพลงนี้มีวิธีการดูแลรักษาต้นไม้อย่างไรอีกบ้าง แล้วบันทึกลงแบบบันทึกการดูแลต้นไม้ ขั้นสอน 3. ครูแนะนำอุปกรณ์และสนทนาถามว่า เด็กๆ รู้จักอุปกรณ์อะไรบ้าง แล้วเด็กๆ คิดว่าจะเอามาทำอะไร 4. ครูสาธิตขั้นตอนในการปลูกต้นถั่วเขียว และมีตัวอย่างให้ดู โดย ครูจะปลูกต้นถั่วเขียวไว้ 2 กระถาง - กระถางที่ 1 ครูเอากระป๋องครอบไว้ - กระถางที่ 2 ครูจะไม่รดน้ำ แต่ได้รับแสงแดด 5. ครูแบ่งกลุ่มให้เด็ก กลุ่มละเท่าๆกัน แล้วให้เด็กลงมือปฏิบัติการปลูกต้นถั่วเขียว 6. ให้เด็กสังเกตการเปลี่ยนแปลงของต้นถั่วงอก และบันทึกการเปลี่ยนแปลง  
ขั้นสรุป
7. ครูและเด็กร่วมกันสรุปกิจกรรม ขั้นตอนการปลูกต้นถั่วเขียวและวิธีการดูแลรักษา  
สื่อ / แหล่งการเรียนรู้
- แผ่นชาร์ทเพลง “ดูแลรักษาต้นไม้”
- แผ่นชาร์ทอุปกรณ์ในการปลูกต้นถั่วเขียว และขั้นตอนการปลูกต้นถั่วเขียว
- แผ่นชาร์ทแบบบันทึกการเปลี่ยนแปลงของต้นถั่วเขียว
- แผ่นชาร์ทบันทึกการดูแลต้นไม้
- เมล็ดถั่วเขียว
- ช้อนพลาสติกเล็ก
- แก้วพลาสติก
- กระดาษทิชชู่
- น้ำ



ความรู้ที่ได้รับ ได้ทักษะเกี่ยวกับการสอน เทคนิคในการสอน วิธีจัดการเรียนการสอน ที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการเรียนการสอนได้จริง
การนำไปประยกต์ใช้  นำไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด นำไปใช้เมือได้ลงมือปฏิบัติจริง ความรู้ที่ได้ไปพัฒนาและต่อยอด


การประเมิน  
ประเมินตนเอง  ได้ทักษะเกี่ยวกับการสอน เทคนิคในการสอน วิธีจัดการเรียนการสอน
ประเมินเพื่อน  เพื่อนๆตั้งใจเรียน และตั้งใจทำงาน
ประเมินอาจารย์ อาจารย์น่ารัก ใจดี สอนเข้าใจง่าย ละเอียด คอยอธิบายและแนะนำในเนื้อหาเรียนการสอน






Record 11
Tuesday 26 March 2018


เนื้อหาการเรียนการสอน

ทดลองสอนกิจกรรมเสริมประสบการณ์ (วันอังคาร) ต่อจากสัปดาห์ที่แล้ว
แผนกิจกรรมเสริมประสบการณ์

หน่วย สัมผัสทั้ง 5 วันอังคาร (หน้าที่ของประสาทสัมผัส) วัตถุประสงค์


 

1.ร่วมสนทนากับครูและเพื่อนได้ 2.ช่วยเหลือตนเองได้ 3.ปฏิบัติกิจวัตรประจำวันของตนเองได้ 4.รู้จักการล้างมือที่ถูกวิธี 5.ร่วมกิจกรรมด้วยความสนใจ 6.ร่วมกิจกรรมได้อย่างสนุกสนาน สาระที่ควรเรียนรู้ การดมกลิ่น เราดมกลิ่นและรับรู้ได้โดยทางจมูกและส่วนต่างๆของร่างกาย สิ่งของบางอย่างฉุน เหม็น หอม ประสบการณ์สำคัญ 1.การสังเกตสิ่งต่างๆ โดยใช้ประสาทสัมผัสด้วยการมอง ฟัง สัมผัส ชิมรสและดมกลิ่นอย่างเหมาะสม 2.การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและเคารพความคิดเห็นของผู้อื่น 3.การแสดงความรู้สึกด้วยการพูด 4.การพูดกับผู้อื่นเกี่ยวกับประสบการณ์ของตนเอง หรือเรื่องเล่าเกี่ยวกับตนเอง 5.การเรียงลำดับเหตุการณ์ต่างๆ กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนำ 1.ครูและเด็กร่วมกัน ร้องเพลง ประสาทสัมผัสทั้ง 5
รู้รสต้องชิมด้วยลิ้น จมูกดมกลิ่นชื่นใจจริงจริงเอย หูฟังเสียงเพราะจังเลย (ซ้ำ) หายไปไหนเอ่ย ใช้ตาดู สิ่งของก็ต้องลองคลำ สองมือขยำ ไม่ลองไม่รู้ ใช้สัมผัสทั้งห้าดู (ซ้ำ) ตา ลิ้น จมูก หู มือคลำ มือคลำ
ขั้นสอน 2.นำกล่องปริศนา 2 กล่องมาให้เด็กๆดมกลิ่น 3.ครูและเด็กช่วยกันอภิปรายกลิ่นที่อยู่ในกล่องปริศนาทั้ง 2 กล่อง ขั้นสรุป 4.ครูและเด็กร่วมกันสรุปผลจากการทำกิจกรรมการดมกลิ่น สื่อ / แหล่งการเรียนรู้ 1. กล่องปริศนา (ที่มีกลิ่นต่างๆ) 2. ชาร์ทเพลง
การประเมิน สังเกต 1.การแสดงออกและการพูดคุยของเด็ก 2.การร่วมกิจกรรม 3.ความสนใจในการปฏิบัติกิจกรรม
คำแนะนำจากอาจารย์ผู้สอน - เด็กๆ คิดว่าในกล่องใบที่ 1 เป็นกลิ่นอะไร และใบที่ 2 กลิ่นอะไร (ความหลากหลายของเด็กต่างกัน) - การดมกลิ่นอะไรก็ตาม พยายามอย่าให้เด็กใฃ้จมูกจ่อในการดมกลิ่น - เด็กได้ใช้จมูกในการดมกลิ่น , เด็กใช้จมูกในการแยกแยะของกลิ่น - เพลงประสาทสัมผัสทั้ง 5 ควรใช้สอนขั้นนำในวันจันทร์ - วันแรก ให้เด็กๆ รู้จักประสาทสัมผัสทั้ง 5 ว่ามีอะไรบ้าง - วันที่ 2 ให้เด็กรู้จักลักษณะของจมูกเป็นอย่างไร ทำหน้าที่อย่างไร (เลือกมา 1 เรื่องที่จะสอน) - ขั้นสรุป ทบทวนเรื่องจมูกว่าจมูกมีลักษณะเป็นอย่างไร มีหน้าที่และการดูแลอย่างไร - การแจกอุปกรณ์ให้เด็ก ไม่ควรเดินไปแจกให้เด็กถึงที่ ให้ใช้วิธีการส่งต่อ หรือให้เด็กออกมาหยิบ แล้วนำไปติดที่บอร์ดหน้าห้อง
แผนกิจกรรมเสริมประสบการณ์ หน่วย อาหารดีมีคุณค่า วันอังคาร (การเลือกซื้ออาหาร) วัตถุประสงค์





1.เด็กสามารถตอบคำถามได้ 2. ร่วมกิจกรรมด้วยความสนใจ 3. เด็กสามารถเปรียบเทียบความเหมือนต่างของมะเขือเทศทั้ง 2 ผลได้ 4. เด็กสามารถแสดงความคิดเห็นได้ สาระที่ควรเรียนรู้ เปรียบเทียบ มะเขือเทศทั้ง 2 ผล โดยใช้การสังเกต ตาดู จมูกดมกลิ่น มือสัมผัส แล้วบอกลักษณะ ของมะเขือเทศ 1. มะเขือเทศดี มีรูปร่างกลม ผิวเรียบมัน สีแดงสด ผลแข็ง เนื้อภายในฉ่ำด้วยน้ำมีเมล็ดเรียงตัว เป็นช่องๆ มีเหมือกวุ้นห่อหุ้มเมล็ด 2. มะเขือเทศไม่ดี ผลมีจุดสีน้ำตาลออกดำหลายจุด บริเวณนั้นเหี่ยวย่นลงไป ผลเหี่ยวย่นไม่แข็ง ประสบการณ์สำคัญ ด้านร่างกาย - ใช้กล้ามเนื้อเล็ก ออกแรงกด จิ้ม บีบ ด้านอารมณ์-จิตใจ - มีอารมณ์ร่วมในกิจกรรมที่ทำ - สนใจในกิจกรรม ด้านสังคม - ร่วมกันแสดงความคิดเห็น - การรอคอย - ร่วมกันตอบคำถาม ด้านสติปัญญา - การเปรียบเทียบ - การสังเกต - การตอบคำถาม กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนำ 1. ครูและเด็กร่วมกันท่องคำคล้องจอง “อาหารของเรา”
อาหารของเรา ต้องเอาใจใส่ กินผักผลไม้ กินไข่กินนม กินเนื้อกินปลา แทนยาขมขม กินข้าวกินขนม อบรมเรื่องกิน
2. ครูสนทนาถึงเนื้อหาในคำคล้องจอง - ในคำคล้องจองนี้ เรากินอะไรบ้าง
ขั้นสอน 3. ครูสนทนากับเด็กถึงวิธีการเลือกซื้ออาหาร - เรามีวิธีเลือกอาหารของเราอย่างไรบ้าง แล้วนำตัวอย่างคือ มะเขือเทศออกมาให้ดู 2 ผล ให้เด็กเปรียบเทียบ 4. ให้เด็กๆเปรียบเทียบมะเขือเทศทั้ง 2 ผล คือ มะเขือเทศดีกับมะเขือเทศไม่ดี ว่ามีลักษณะแตกต่าง กันอย่างไร โดยใช้การสังเกตจาก ตาดู จมูกดมกลิ่น มือสัมผัส แล้วใช้คำถามดังนี้ - จากการดู เด็กๆเห็นว่ามะเขือเทศมีลักษณะอย่างไร (ดูทีละผลแล้วบอก สี รูปทรง ส่วนประกอบ ของมะเขือเทศ ) - จากการดมกลิ่น เด็กๆได้กลิ่นมะเขือเทศเป็นอย่างไร (ดมทีละผลแล้วบอกลักษณะของกลิ่น) - จากการสัมผัส เด็กๆ รู้สึกอย่างไร (สัมผัสทีละผลแล้วบอกลักษณะผิวของมะเขือเทศ) ขั้นสรุป 5. ครูและเด็กร่วมกันสรุปความเหมือนต่างของมะเขือเทศทั้ง 2 ผล ในรูปแบบ Venn diagram สื่อ / แหล่งการเรียนรู้ 1. แผ่นชาร์จคำคล้องจอง “อาหารของเรา” 2. มะเขือเทศ 2ผล คือ มะเขือเทศดีกับมะเขือเทศไม่ดี 3. แผ่นชาร์จวิเคราะห์ข้อมูล 4. แผ่นชาร์จ Venn Diagram การประเมิน สังเกต 1. การสนทนาการตอบคำถาม 2. การความสนใจร่วมทำกิจกรรม 3. เปรียบเทียบความเหมือนต่างของมะเขือเทศ ทั้ง 2 ผล 4. การแสดงความคิดเห็น การบูรณาการ - คณิตศาสตร์ - วิทยาศาสตร์
คำแนะนำจากอาจารย์ผู้สอน
- การสอนเรื่องอาหารต้องมีถุงใบเล็กๆใส่อาหาร ไว้ให้เด็กได้สังเกต - ต้องมีตัวเลขกำกับ - การแยกประเภทอาหาร ของคาว ของหวาน ใช้เกณฑ์อาหารของคาวเป็นหลัก - การเลือกอาหารต้องเป็นอาหารที่สุก ไม่มีกลิ่นเสีย ไม่ใส่สารเคมี - นำอาหาร 2 อย่าง มาให้เด็กสังเกตและเลือก แล้วบันทึกลงตารางวิเคราะห์ข้อมูล ระหว่าง อาหารที่ควรกินกับอาหารที่ไม่ควรกิน - ขั้นสรุป ทำไมถึงเลือกกินอาหารที่สุก เพราะอาหารสุกมีประโยชน์ต่อร่างกาย
แผนกิจกรรมเสริมประสบการณ์ หน่วย ผีเสื้อ วันอังคาร (ลักษณะของผีเสื้อ)





คำแนะนำจากอาจารย์ผู้สอน
- การร้องเพลงเก็บเด็กควรใช้เพลงเดียวไม่ควรใช้หลายเพลง และให้เด็กร้องตามไปด้วย - ภาพผีเสื้อที่เตรียมมาให้เด็กสังเกต ต้องมีขนาดใหญ่และละเอียด - หารสังเกตผีเสื้อใบลัก มีรูปร่าง สี ส่วนประกอบอะไรบ้าง - การใช้สัญลักษณ์กำกับเรื่องสี ไม่ควรใช้รูปทรงกำกับ เช่น รูปทรงสี่เหลี่ยม รูปทรงสามเหลี่ยม ควรใช้การฝนของสี - การใช้สัญลักษณ์กำกับเรื่องรูปทรง ไม่ควรใช้ภาพที่สัญลักษณ์ภาพที่มีสี - ถ้าผีเสื้อที่เป็นประเภทเดียวกัน สามารถเปรียบเทียบขนาดของผีเสื้อได้ - การออกแบบตารางเปรียบเทียบความเหมือนความต่าง ควรออกแบบให้มีขนาดใหญ่และเขียน  แผนกิจกรรมเสริมประสบการณ์
หน่วย บ้าน วันอังคาร (ลักษณะของบ้าน)
คำแนะนำจากอาจารย์ผู้สอน
- ภาพที่จะให้เด็กสังเกตต้องมีขนาดใหญ่ รายละเอียดของภาพต้องชัดเจน - ส่วนประกอบของบ้าน เอาไว้หัวข้อสุดท้ายของตารางวิเคราะห์ข้อมูล - เด็กๆ ต้องวิเคราะห์ว่าบ้านหลังไหนที่ใช้เวลาในการสร้างบ้านนานมากที่สุด และบ้านหลังไหน ใช้เวลาสร้างบ้านน้อยที่สุด - รายละเอียดของตารางวิเคราะห์ข้อมูลประกอบด้วย วัสดุที่ใช้สร้างบ้าน , เวลาในการสร้างบ้าน ,
แผนกิจกรรมเสริมประสบการณ์ หน่วย ตัวฉัน (วันอังคาร) วัตถุประสงค์ 1. เด็กบอกชื่อ วันเกิด อายุ ของตนเองได้ 2. ร่วมสนทนากับครูและเพื่อนได้ 3. มีความรู้สึกที่ดีต่อตนเอง 4. บอกความแตกต่างของตนเองและผู้อื่นได้ สาระที่ควรเรียนรู้ - ฉันมี ชื่อ มีวันเกิด และอายุ ประสบการณ์สำคัญ ด้านร่างกาย 1. การประสานสัมพันธ์ระหว่างมือกับตา ด้านอารมณ์ – จิตใจ 2. การร่วมกิจกรรมด้วยความสนุกสนาน ด้านสังคม 3. การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและเคารพความคิดเห็นของผู้อื่น ด้านสติปัญญา 4. การใช้ภาษาในการตอบคำถาม กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนำ 1. ครูเล่านิทาน โดยมีหุ่นเด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิงพูดคุยกัน เกี่ยวกับชื่อ วันเกิด อายุ ของตนเอง 2. ครูและเด็กร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับนิทานด้วยการถามคำถามและตอบคำถาม
ขั้นสอน 3. ครูและเด็กพูดคุยกันเกี่ยวกับชื่อ โดย แจกบัตรชื่อของแต่ละคน ให้เด็กสังเกตว่า ชื่อของใคร ขึ้นต้นด้วย พยัญชนะ ก. ให้เด็กยกมือ ขึ้นต้นด้วย พยัญชนะ....... (ครูจะสำรวจมาแล้ว)................ 4. ครูนำตารางเดือนใน1ปี ให้เด็กๆดูและอ่านทบทวนแต่ละเดือน 5. ให้เด็กที่เกิดเดือนมกราคมนำแผ่นชื่อมาติดที่ช่องเดือนมกราคม ตรงกับวันเกิด..........ให้เด็ก ที่เกิดเดือนกุมภาพันธ์นำแผ่นชื่อมาติดที่ช่องเดือนกุมภาพันธ์ ตรงกับวันเกิด.....................ทำต่อไป จนถึงเดือนธันวาคม
ขั้นสรุป 6. ครูและเด็กๆร่วมกันสรุปรายชื่อผู้มีวันเกิดในแต่ละเดือน สื่อ / แหล่งการเรียนรู้ 1. หุ่นเด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิง
2. ตารางวิเคราะห์ 3. บัตรชื่อ  
การประเมิน - ฟังจากการสนทนาโดยบอกชื่อและวันเกิดของตนเองได้ - สังเกตการมีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนและครู
คำแนะนำจากอาจารย์ผู้สอน - เวลาสอนไม่ควรให้เด็กออกมาสาธิตให้เพื่อนดู เพราะทำให้เด็กบางคนมีปมด้วยในตัวเอง ควรมีรูปภาพให้เด็กสังเกต - เพลงต้องเลือกให้เหมาะสม หรือเลือกเพลงจากประสบการณ์เดิม - ความแตกต่างของร่างกายของเด็กผู้หญิงกับเด็กผู้ชาย เด็กผู้ชายไม่มีความแตกต่างไปจาก เด็กผู้หญิง เพราะมีอวัยวะร่างกายเหมือนกัน - ถ้าไม่มีสื่อรูปภาพ ให้นำชื่ออวัยวะไปติดตามลูกศรข้างนอกวง


ความรู้ที่ได้รับ ได้ทักษะเกี่ยวกับการสอน เทคนิคในการสอน วิธีจัดการเรียนการสอน ที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการเรียนการสอนได้จริง
การนำไปประยกต์ใช้  นำไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด นำไปใช้เมือได้ลงมือปฏิบัติจริง ความรู้ที่ได้ไปพัฒนาและต่อยอด


การประเมิน  
ประเมินตนเอง  ได้ทักษะเกี่ยวกับการสอน เทคนิคในการสอน วิธีจัดการเรียนการสอน
ประเมินเพื่อน  เพื่อนๆตั้งใจเรียน และตั้งใจทำงาน
ประเมินอาจารย์ อาจารย์น่ารัก ใจดี สอนเข้าใจง่าย ละเอียด คอยอธิบายและแนะนำในเนื้อหาเรียนการสอน





Record 15 I missed class today because something to attend to